‘ติ๊ก’ เจษฎาภรณ์ แจงกรณีชื่อโผล่กรรมการบริหารพรรคการเมือง พบมีคนดังอีกเพียบ

‘ติ๊ก’ เจษฎาภรณ์ แจงกรณีชื่อโผล่กรรมการบริหารพรรคการเมือง พบมีคนดังอีกเพียบ

พระเอก ‘ติ๊ก’ เจษฎาภรณ์ สุดทน ทวิตแฉหลังชื่อตัวเองไปโผล่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ชี้้เป็นเฟกนิวส์ พบรายชื่อคนดังอีกเพียบ จากกรณีที่มีชื่อของพระเอกคนดัง “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี โผล่เป็นหนึ่งในรายชื่อกรรมการบริหารพรรคการเมือง ล่าสุดเจ้าตัวออกมาชี้แจงแล้ว โดยวันที่ 2 พ.ย.64 ในทวิตเตอร์ Tik Jesdaporn Pholdee เจ้าตัวได้ออกมากล่าวถึงรายละเอียดทั้งหมด

โดยเอกสารดังกล่าวอ้างถึงกรรมการบริหารพรรคการเมือง 

เริ่มจากนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นหัวหน้าพรรค พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นรองหัวหน้าพรรค รวมถึงคนดังและมีชื่อเสียงอีกหลายคนที่เข้ามาอยู่ในรายชื่อที่อ้างขึ้นมาด้วย รวมถึงชื่อของ “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้ ประเด็นนี้เจ้าตัวได้ทวิตอธิบายไว้ว่า “ผมไม่ได้มีส่วนในเรื่องของพรรคการเมืองนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และไม่ได้เล่นการเมือง เอกสารฉบับนี้เป็น fake news นะครับ พร้อมกับได้แนบรูปภาพที่มีรายชื่อของกรรมการบริหารพรรค”

ขณะเดียวกันไม่ใช่แต่ชื่อของพระเอกซุปตาร์คนเดียวเท่านั้น เพราะในลิสต์ยังพบรายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกจำนวนมาก อาทิ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกรคนดัง, ร.ต.อ.สงกรานต์ เตชะณรงค์ และ “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ เป็นต้น

ขณะที่ชาวเน็ตและแฟนคลับหลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ก็ได้แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ของพระเอกคนดัง โดยเรียกร้องให้เจ้าตัวดำเนินคดีตามกฏหมายกับผู้ที่นำชื่อไปแอบอ้างในครั้งนี้อีกด้วย

ด้านประเทศไทยเอง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ห่วงใยคนไทยในยูเครน พร้อมอพยพหากจำเป็น ด้วยการเช่าเครื่องบินเหมาลำ และเตรียมแผนสำรองหากมีการปิดน่านฟ้า จะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์

ขอนแก่น เพิ่มความเข้มของมาตรการโควิด หลังยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยทางจังหวัดสั่ง ห้ามกินเหล้า เริ่มแล้ววันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ได้เผยแพร่ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง มาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดขอนแก่น (ฉบับที่ 64) ซึ่งเป็นประกาศปรับนโยบายป้องกันโควิด-19 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. หรือ วันนี้เป็นต้นไป

โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า “1.ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคล ที่มีจำนวนรวมตัวกันมากกว่า 50 คน หากเกินจำนวนตามที่กำหนดทุกกรณี ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอในเขตท้องที่นั้นฯ ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมต้องแจ้งมาตรการก่อน 3 วัน

ร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาการ หรือเครื่องดื่มในร้านได้ตามเวลาปกติ โดยห้ามการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน โดยมาตรการนี้ให้ใช้กับร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนยการค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันในทุกเขตพื้นที่

‘ธนกร’ ค้าน พท.เล็งแก้ ‘ม.112’ ชี้ขนาดมีก็ยังกล้าจาบจ้วงสถาบัน อ้างแต่เสรีภาพไม่ได้

“ธนกร” ค้าน พท.เล็งแก้ ม.112 ชี้ขนาดมีก็ยังกล้าจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ วอนอย่าดำเนินการอะไรที่หวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แจงใครไม่ได้ทำผิดย่อมไม่ได้รับผลกระทบ วานนี้ 2 พ.ย. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้กฎหมายลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีบางกลุ่มเสนอให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยว่า

ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรม หรือแม้แต่ตัวกฎหมายต่างๆ ไม่ได้จำกัดการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นใดๆ นั้น ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย จะอ้างแต่ว่าควรมีเสรีภาพทางความคิดอย่างเดียวนั้นคงไม่ได้

ส่วนที่ระบุว่าทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมที่รุนแรงมากขึ้นนั้นก็คงไม่ใช่ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมามีนักการเมืองบางกลุ่ม ซึ่งแทนที่จะห้ามปรามการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันฯ แต่กลับออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะคล้ายๆ ว่าเห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ หรือแม้แต่การใช้เอกสิทธิ ส.ส.ช่วยประกันตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่จาบจ้วงสถาบันฯ เป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกมาตลอด อย่าพยายามแบ่งแยกประชาชนเลย

ทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ควรจะมีความสามัคคีเพื่อประเทศชาติและประชาชน นายธนกร กล่าวอีกว่า หากพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะแก้กฎหมายบางเรื่อง ก็สามารถดำเนินการได้โดยการนำข้อเสนอแนะต่างๆ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาฯ แต่ไม่ใช่การออกไปผสมโรงด้วยกับผู้ชุมนุมเหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน หากจะมีการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย เพราะที่ผ่านมาขนาดว่ามีมาตรา 112 ยังมีการชุมนุมที่แกนนำจาบจ้วงสถาบันขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับการที่ไม่มีมาตรา 112 ดังนั้น

ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการอะไรโดยหวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าคนไทยที่รักสถาบันหลายคนคงรับไม่ได้ ที่สำคัญ คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดนั้นก็ย่อมจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว มาตรา112มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่มีกฏหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง ทางที่ดีพรรคเพื่อไทยควรเสนอแนะเรื่องการบริหารบ้านเมืองน่าจะดีกว่าการมาเสนอแก้ไขกฎหมายที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งที่คนไทยรัก เคารพ และศรัทธา

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป