กลายเป็นกรณีสุดงง หลัง หนุ่มโทรเรียกตำรวจเพื่อให้มาช่วย พิสูจน์ยาเสพติด ว่าเป็นของจริงไหม หลังคิดว่าโดนหลอก สุดท้ายเป็นของจริง ถูกรวบเอง เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ทางเพจเฟซบุ๊ก สำนักนายอำเภอเฮอร์นันโดเค้าท์ตี้ เปิดเผยว่านายอำเภอใน เฮอร์นันโดเค้าท์ตี้ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งว่า มีประชาชนได้โทรเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบยาเสพติดที่เขาเพิ่งซื้อมา หลังจากที่เขารู้สึกว่ายาที่เขาซื้อมานั้นเหมือนกับเกลืออาบน้ำมากกว่ายา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังบ้านของชายคนดังกล่าว
ซึ่งชายคนนี้เล่าว่าเขาซื้อยาเสพติดมาจากชายคนหนึ่ง และเขาไม่อยากให้ลูกค้าคนอื่นหลงผิดซื้อยากับคนนี้ อย่างไรก็ดีเขาไม่สามารถให้ชื่อกับคนที่ซื้อยามาได้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบยาเสพติดตามที่เขาขอ และพบว่าเป็นยาเสพติดจริง โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมชายคนนี้ทันที ก่อนจะนำตัวส่งเรือนจำต่อไป
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทิ้งท้ายแบบติดตลกว่า หากใครสงสัยว่ายาเสพติดที่ซื้อมานั้นเป็นของจริงหรือไม่ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เสมอ และทางเจ้าหน้าที่จะให้บริการฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย
จากกระแสข่าวโด่งดังจากที่ บรรณาธิการหญิง ชูป้าย ประท้วงสงครามรัสเซีย ล่าสุดเธอเปิดเผยว่าเธอถูกควบคุมตัวและสอบสวนนานถึง 14 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า มารีนา โอฟแซนนิโควา บรรณธิการหญิงที่ชูป้ายต่อต้านสงครามรัสเซียและเรียกร้องให้ประชาชนหยุดเชื่อโฆษณาชวนเชื่อจากทางการรัสเซีย กลางรายการข่าว จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอถูกตำรวจสอบนาน 14 ชั่วโมง
เธอกล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำนาน 14 ชั่วโมงและไม่ได้นอนถึง 2 วัน พร้อมระบุอีกว่า เธอไม่สามารถเข้ารับการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายได้นานหลายชั่วโมง
โดย โอฟแซนนิโควา ระบุว่าเบื้องต้นเธอถูกปรับเงินราวๆ 9 พันบาท จากการที่เธออัดวิดีโอระบุว่าเธอรู้สึกอับอายที่ต้องเป็นผู้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อจากรัฐบาล ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่า บรรณาธิการหญิงคนดังกล่าวจะถูกตั้งข้อหาอื่นๆจากการชูป้ายกลางรายการข่าวเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะกฎหมายที่ว่าด้วยการเผยแพร่ “ข่าวปลอม”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ บรรณาธิการข่าวของสำนักข่าวจากช่อง ชาแนลวัน สถานีโทรทัศน์ในประเทศรัสเซียที่ชูป้ายต่อต้านสงคราม ในขณะที่ทางสถานีกำลังออกอากาศรายการข่าวเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยข้อความระบุว่า “ไม่เอาสงคราม ยุติสงคราม อย่าเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขากำลังโกหกคุณอยู่” พร้อมตะโกนเรียกร้องให้หยุดการสู้รบ ซึ่งหลังจากที่ข้อความดังกล่าวปรากฎบนหน้าจอได้ไม่นานทางสถานีก็ตัดภาพออกไป
รัสเซีย ถอนตัวจาก สภายุโรป หลังกองทัพรัสเซียบุกรุกยูเครน
รัสเซีย ประกอนถอนตัวจาก สภายุโรป ส่งผลให้ทางรัสเซียสามารถกลับมาใช้มาตรการประหารชีวิต และ ประชาชนไม่สามารถร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนต่อสภาได้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว ฟร็องซ์24 รายงานว่า รัสเซียได้ประกาศถอนตัวจากสมาชิกสภายุโรป หรือ COE องค์กรส่งเสริมได้สิทธิมนุษยชน อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ประเทศรัสเซียต้องถูกกดดันอย่างหนักด้วยการระงับสถานภาพสมาชิก หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา
โดยการถอนตัวครั้งนี้จะส่งผลให้ทางรัสเซียสามารถกลับไปใช้โทษประหารชีวิตได้หากรัสเซียต้องการ และประชาชนในรัสเซียจะไม่สามารถร้องเรียนปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนต่อ สภาสิทธิมนุษยชนยุโรปได้
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า พวกเขาไม่เสียใจต่อการถอนตัว และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน พร้อมระบุว่าทางรัสเซียยังคงใช้มติจากทางสภาสิทธิมนุษยชนยุโรป ตราบใดที่ไม่ขัดกับมาตรการรัสเซีย รัสเซียนับเป็นประเทศที่สองซึ่งลาออกจากหน่วยงานแห่งนี้ ต่อจากกรีซ เมื่อปี 2512
เซเลนสกี ออกมาแถลงผ่านทางเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าการ เจรจารัสเซีย ดูมีความเป็นไปได้มากขึ้น พร้อมยอมรับข้อตกลงไม่เข้าร่วม NATO แล้ว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โวโลดิเมียร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้กล่าวผ่านทางไลฟ์เฟซบุ๊ก ว่าด้วยสถานการณ์การเจรจากับทางการรัสเซีย โดยผู้นำยูเครนระบุว่าในขณะนี้ “ดูมีความเป็นไปได้” มากขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการหาข้อตกลงได้
นอกจากนี้ผู้นำยูเครนยังระบุว่า การที่ประเทศยูเครนจะชนะรัสเซียได้ ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจกันของชาวยูเครน รวมถึงทีมเจรจาที่ตอนนี้กำลังหารือกับตัวแทนจากรัสเซียอยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะหารือเพิ่มเติมในวันพุธนี้
เบื้องต้นทางยูเครนยอมรับจ้อตกลงที่จะไม่เข้าร่วม องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ แล้ว ทั้งนี้ทางยูเครนยังไม่ตกลงที่จะยอมรับว่า รัฐโดเนกซ์ ลูฮันส์ เป็นรัฐอิสระ รวมถึงยอมรับพื้นที่ไครเมียเป็นของรัสเซีย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป